การสอนผิดๆ ทำให้นักเรียนไทยเกลียดวิทยาศาสตร์ห้องเรียนที่ต้องเริ่มทดลอง กับ ‘ดร.โก้’
เกลียดวิทย์ฯ ตั้งแต่เด็ก? ไม่ต้องแปลกใจ เพราะวิชาวิทยาศาสตร์มักสอนคุณแบบผิดๆ เสมอ และเป็นไปได้ไหมที่การเรียนวิทยาศาสตร์จะช่วยปลุกหัวใจการเป็นนักทดลองของเด็กๆ
“พืชใบเลี้ยงเดี่ยวต่างจากพืชใบเลี้ยงคู่อย่างไร”
อยากรู้ก็เปิดไปหน้าถัดไปสิ หนังสือบอกไว้หมดแล้ว!
กลายเป็นว่า เราเรียนวิทยาศาสตร์ทุกอย่างจากในตำรา หน้าที่ของคุณคือการท่องจำ ใครจำได้มากกว่าก็ตอบข้อสอบได้ โดยเขาอาจจะไม่เคยแยกแยะพืชใบเลี้ยงเดี่ยวหรือพืชใบเลี้ยงคู่ได้เลยด้วยซ้ำทั้งชีวิต นอกจากภาพประกอบในหนังสือเรียน
เด็กๆ ถูกปิดกั้นการเรียนรู้ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด 4 – 7 ขวบ ทำไมการเรียนวิทยาศาสตร์ไทยภายใต้ระบบการศึกษาถึงไม่สร้างแรงบันดาลใจเลย? กลายเป็นว่าพวกเราค่อยๆ หันหลังให้กับวิทยาศาสตร์ทีละน้อยในตลอดช่วงอายุขัยของพวกเรา
อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ขนมาทำการทดลอง ดูเหมือน ‘กองขยะ’ มากกว่าหลอดทดลองหรือบีกเกอร์ขนาดมาตรฐาน ประเมินด้วยสายตาแล้วสนนราคาไม่น่าจะถึง 200 บาท (ไม่รวมเตาแก๊สและเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดอ่ะนะ) ขวดพลาสติก กระป๋องอะลูมีเนียม อ่างน้ำ ต่างเป็นของเหลือใช้ที่บ้านใครก็มี (ขวดนมถั่วเหลืองยังมีถั่วติดอยู่เลยด้วยซ้ำ) แต่เด็กๆ กลับมองข้ามรูปลักษณ์ขี้เหร่เหล่านี้ เพราะพวกเขากำลังลุ้นว่าจะได้เห็นปรากฏการณ์อะไรที่ตื่นตามากกว่า
“การเข้าใจสิ่งรอบตัวมันก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมายอะไรหรอก มันอยู่ที่ ‘คนเรียน’ มากกว่าอุปกรณ์ ก็เลยพยายามทำออกมาให้ใครๆ ก็ทำได้”
เสียงตูมตามและไฟวูบวาบเกิดเรียกเสียงโห่ร้องของเด็กๆ เมื่อ ดร.โก้ นำกระป๋องน้ำที่ต้มจนเดือดไปแช่ในน้ำอุณหภูมิที่ต่างกันอย่างกะทันหัน หรือเปลวไฟในขวดพลาสติกที่ชโลมด้วยแอลกอฮอล์ล้างแผล เด็กๆ เริ่มแสดงความคิดเห็นด้วยสมมติฐานต่างๆอย่างออกรส
เด็กๆจดบันทึกการทดลองในสมุดเล็กๆ ด้วยลายมือยุกยิก แต่ก็ละเอียดยิบพอตัว ทำไมเราถึงไม่เห็นแบบนี้ในระบบการศึกษาภาคบังคับอื่นๆบ้าง โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ ดร.โก้ บอกกับเราว่า
“มันจะเรียนรู้ได้ ก็ต่อเมื่อคิดได้เองก่อน ทำอะไรเองได้ แต่สิ่งที่เราเรียนกันที่ประเทศไทย เป็นการทำลายให้คนที่ยังมีศักยภาพในการเป็นนักวิทยาศาสตร์ ให้หายไปเป็นล้านคน ทำลายเด็กๆ เหล่านั้นไปเลย กลายเป็นว่าคนพอโตขึ้นคนในประเทศเกลียดวิทยาศาสตร์ เกลียดคณิตศาสตร์ ซึ่งจริงๆ มันไม่ควรเกลียด มันเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษยชาติพัฒนาของเจ๋งๆ ออกมา
“แต่การเรียนวิทยาศาสตร์บ้านเรา คือจำมาแล้วตอบแข่งกัน แล้วก็แก้สมการยากๆ โดยที่พื้นฐานยังไม่ดี คนผ่านมันก็ผ่านได้ คนสอบตกก็เกลียดไปเลย ไม่มีใครซาบซึ้งวิทยาศาสตร์แล้วก็ลืมไปเสียง่าย แทนที่จะเข้าใจอะไรลึกซึ้ง เห็นความคล้องจองและความสวยงามรายรอบตัว ผมว่ามันเสียเวลาในชีวิตของพวกเขาและเสียโอกาสด้วย”
“วิทยาศาสตร์ในนิยามของผมเป็นกระบวนการในการเข้าใจอะไรก็ตาม โดยใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ พยายามอธิบาย พยายามเดา แล้วทดลองด้วยตัวเอง พอมนุษยชาติเริ่มใช้ปัญญา เริ่มใช้วิทยาศาสตร์ มันจะเติบโตเร็วมาก”
ที่มา :https://thematter.co/byte/dont-hate-science-yet-learn-it-with-dr-ko/19775